💥7 ข้อต้องระวังก่อนซื้อประกันชีวิตผู้สูงอายุ❗️
1.ข้อต้องระวังก่อนซื้อประกันชีวิตผู้สูงอายุ ประกันชีวิตสำหรับผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะกำหนดช่วงอายุที่สามารถทำประกันได้ตั้งแต่ 50-70 ปี โดยจะได้รับความคุ้มครองไปจนถึงอายุ 80-90 ปี หรือตลอดชีพขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกัน
2.ประกันชีวิตผู้สูงอายุไม่ใช่ประกันสุขภาพ ประกันชีวิตผู้สูงอายุ ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนอาวุโสที่มีปัญหาสุขภาพซึ่งการทำประกันชีวิตแบบทั่วไปไม่ได้หรือไม่มีกำลังทรัพย์มากพอที่จะจ่ายเบี้ยประกันแพงๆ แต่ยังต้องการความคุ้มครองเมื่อเสียชีวิต
3.เลือกแบบประกันให้ตรงกับเป้าหมาย ที่ต้องการ ประกันชีวิตในปัจจุบันแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
- ประกันชีวิตแบบเน้นความคุ้มครอง
- ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์
4.ปรียบเทียบวงเงินเอาประกันกับค่าเบี้ยประกันที่จ่ายไหว วงเงินเอาประกัน คือ เงินที่บริษัทประกันจะจ่ายให้คุณ เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่เข้าเงื่อนไขตามข้อตกลงในกรมธรรม์ ซึ่งเงินจำนวนนี้จะสอดคล้องกับเบี้ยประกันที่คุณต้องจ่าย หากเลือกจ่ายเบี้ยประกันแพงก็จะได้รับความคุ้มครองเเละวงเงินเอาประกันที่สูงขึ้นตามไปด้วย
5.ประกันชีวิตผู้สูงอายุมีระยะเวลารอคอย เงื่อนไขเรื่อง “ระยะเวลารอคอย” ลงในสัญญา ส่วนใหญ่จะกำหนดไว้ประมาณ 1-2 ปี นับจากวันที่กรมธรรม์อนุมัติ ป้องกันไม่ให้ผู้สูงอายุที่มีโรคภัยไข้เจ็บรุมเร้าอยู่ก่อนหน้า มาทำประกันชีวิตเพื่อหวังได้รับเงินประกันในวงเงินสูงๆ เมื่อเสียชีวิต
6. พิจารณาเงื่อนไขการจ่ายเงินประกันงื่อนไขการจ่ายเงินประกันชีวิตผู้สูงอายุโดยทั่วไปจะจ่ายเฉพาะกรณีเสียชีวิตเท่านั้น หากเสียชีวิตภายใน 2 ปี นับตั้งแต่วันที่อนุมัติในกรมธรรม์ บริษัทประกันจะจ่ายตามเงื่อนไข ดังนี้ กรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ จะได้รับเงินเอาประกันเต็มจำนวน และกรณีเสียชีวิตจากโรคภัยไข้เจ็บ จะได้รับแค่ค่าเบี้ยประกันที่คุณจ่ายไปทั้งหมด
7.อย่าลืมตรวจสอบรายละเอียดและเงื่อนไขแนบท้ายอื่นๆ ประกันชีวิตผู้สูงอายุของแต่ละบริษัทมีหลายรูปแบบ รวมทั้งมีเงื่อนไขเเละรายละเอียดในเอกสารเเนบท้ายที่ต่างกัน ดังนั้น ควรตรวจสอบและอ่านข้อมูลให้ครบถ้วน